ผีอำ คืออะไร? เคยมั้ยที่นอนอยู่ก็ลืมตาไม่ขึ้น ตัวหนัก ขยับไม่ได้ ขนหัวลุกไปหมด ถ้าคุณเคยมีอาการแบบนี้ต้องดู
Video Script
สลีปพาราไลซิสหรือที่เรียกกันในอีกชื่อว่า “โอลด์แฮ๊กซินโดรม” [2.3]ในญี่ปุ่นเองก็เรียกเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกับที่อธิบายมานี้ว่า “คานาบาชิ” [3.1][3.2]*ซึ่งเชื่อกันว่าผีจะสิงสู่ร่างกายของมนุษย์ทำให้ขยับไม่ได้[4.2]* และที่ประเทศไทยเองก็เรียกกันว่า “ผีอำ”[4.1] รวมถึงยังมีเรื่องเล่าและเรื่องราวของสลีปพาราไลซิสนี้ในอีกหลายวัฒนธรรมจนนับไม่ถ้วน แล้วจริงๆมันคือศาสตร์มืดและวิญญาณร้ายที่มาหลอกหลอนทุกครั้งที่คุณข่มตาหลับหรือไม่?
ากจะอธิบายสั้นๆแล้ว มันก็คือช่วงเวลาที่คุณรู้สึกเหมือนกับกำลังตื่นอยู่ แต่ร่างกายของคุณนั้นอยู่นิ่งและแข็งทื่อ [1.4]หากคุณเคยดูหนังเรื่อง “อเวค” มันก็ค่อนข้างจะคล้ายคลึงกัน[2] เว้นแต่เน้นที่การเจ็บปวดทางอารมณ์และจิตใจมากกว่าทางด้านร่างกาย หรือง่ายๆก็คือเหมือนคุณตื่นมาระหว่างที่ตายอยู่[P] ในบางกรณีคุณสามารถลืมตาได้แต่นั่นก็เหมือนจะเป็นส่วนเดียวในร่างกายที่ทำงานโดยที่ส่วนอื่นๆยังคงแข็งทื่อ และหากคุณคิดว่าตัวเองกำลังฝันร้ายคุณก็คิดผิดเพราะมันต่างกันมากทีเดียว เนื่องจากคุณยังรู้สึกตัวและรับรู้ถึงสิ่งรอบข้าง ตรงกันข้ามกับเวลาที่คุณเข้าไปท่องในโลกความฝัน นอกจากนี้ยังมักจะเกิดภาพหลอนในขณะที่ตาของคุณเปิดอยู่ เราก็ไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงนะแต่มันน่ากลัวสุดๆเลย และเราขอเลือกฝันร้ายที่เราสามารถตื่นขึ้นมาแล้วรับรู้ได้ว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันดีกว่า
สลีปพาราไลซิส หรือ ผีอำ จริงๆแล้วมันไม่ใช่ผีหรือปีศาจตามมาหลอกหลอนคุณ[1.2] มันคือการที่สมองถูกขัดจังหวะในขณะที่กำลังเคลิ้มหลับ[2.1] เหมือนร่างกายหลับแล้ว แต่สมองยังไม่หลับ[2.2] สมองเลยส่งสารเคมีบางอย่างทำให้ร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้ [2.3]และนี่คือสาเหตุว่าทำไม คุณถึงขยับตัวไม่ได้ หรือ เปล่งเสียงออกมาไม่ได้ และมีอาการหายใจลำบาก เหมือนมีคนมานั่งทับหน้าอก
แล้วไอ้ผีอำนี่มันมีจริงมั้ย? [1.1][1.2]ก็เวลาที่หายใจไม่ออก[2.1] ก็เห็นชัดๆว่ามีผู้หญิงมานั่งทับที่หน้าอก แล้วมันไม่ใช่ผีอำตรงไหน[2.2] เพราะตอนที่กึ่งหลับกึ่งตื่น สมองทำงานแล้วแต่ร่างกายยังไม่ทำงาน ซึ่งงานวิจัยพบว่า มันเกิดจากความกลัว และคิดไปเองในขณะนั้น เพราะตอนนั้นสมองทำงานแล้วแต่ตัวขยับไม่ได้ ก็คิดซ้ำๆเกิดอะไรขึ้นๆๆ ต้องเป็นผีแน่ๆ สุดท้ายก็สร้างภาพเสมือนจริงขึ้นมา[3.3] ซึ่งที่จริงภาพที่สร้างขึ้นมาในแต่ละวัฒนธรรมก็ต่างกัน ที่อเมริกาจะเห็นเป็นแม่มด[4] ญี่ปุ่นจะเห็นเป็นปีศาจ[5] และที่ไทย แน่นอน หญิงสาวผมยาวปกคลุมใบหน้า
เราจำต้องขอเลี่ยงไม่อธิบายลงลึกในเรื่องนี้ เนื่องด้วยมันมีความซับซ้อนอย่างมาก ทั้งนี้ส่วนที่แย่ที่สุดของสลีปพาราไรซิสก็คือมันทำให้เกิดอาการวิตกกังวลอย่างหนักในครั้งต่อไปที่คุณจะนอนหรือพยายามจะข่มตาหลับ [1.3]เพราะความกลัวที่เห็นหรือรู้สึกถึงวิญญาณร้าย ซึ่งจริงๆมันควรจะไปทำอย่างอื่นแล้วเลิกยุ่งกับคุณซักที! [2.2]แต่โชคยังดีที่มีบางอย่างสามารถช่วยลดโอกาสการเกิดสลีปพาราไรซิสได้ แม้จะไม่สามารถทำให้หายไปได้ทั้งหมดเนื่องจากมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ข้อแรก เลิกนั่งอยู่หน้าทีวีหรือหน้าจอคอมจนดึก ซีรีส์เรื่องโปรดและรายการสุดมันของคุณไม่ต้องฝืนดูให้มันจบ[1.3] งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการอดนอนเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการเกิดสลีปพาราไรซิส [2]ดังนั้นค่อยเก็บไว้ไปแอบดูสักตอน ตอนที่ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด ไม่ต้องอายทุกคนก็ทำกันทั้งนั้น [3]ข้อสองลองนอนตะแคง[4.1] นักวิจัยได้ค้นพบว่าสลีปพาราไรซิสเกิดบ่อยที่สุดเวลาที่เรานอนหงายซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้เราเจอเจ้าวิญญาณร้ายเพื่อนเก่าของเราอีก เพราะฉะนั้นนอนหันหลังให้มันซะเลยดีกว่า[4.3] นอกจากนี้อาการทางจิต อาการไบโพล่า โรคลมหลับ และการใช้สารบางชนิดก็ถือเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้อง [5.3] ดังนั้นพยายามอยู่ให้ห่างจากยาด้านมืดทั้งหลายเอาไว้ มันไม่คุ้มค่าให้เจ้าผีร้ายเพื่อนเก่ามาเยี่ยมหรอก
บางทีส่วนที่น่ากลัวที่สุดของสลีปพาราไรซิสก็คืออาการวิตกกังวลที่เกิดขึ้น มันจะก่อปัญหาอีกยาวเป็นหางว่าวซึ่งทำให้ชีวิตยิ่งยุ่งยาก[1.2] เพราะฉะนั้นแล้วหากคุณกำลังรู้สึกวิตกกังวลมากๆเรื่องการนอน จนคุณกลายเป็นประภาคารที่คอยส่องไฟยามค่ำคืนโดยไม่ยอมหลับ[2.2]และเป็นผลให้คุณอ่อนล้ามากในช่วงกลางวัน[P] คุณควรปรึกษาแพทย์จึงจะดีที่สุด